ความรักแท้ที่ยิ่งใหญ่ที่เล่าขาน กันมารุ่นต่อรุ่น

ถ้าเอ่ยถึงตำนานความรักที่ยิ่งใหญ่ของชายหญิงที่มีจุดจบ แสนเศร้า หลายคนคงนึกถึงตำนานความรักของสองตระกูลใหญ่ที่ต่างฝ่ายต่างไม่ลงรอยกัน อันเป็นผลให้ความรักของรุ่นลูกอย่าง “โรมิโอ และจูเลียต” ต้องจบลงด้วยความตาย แต่ถ้าเป็นตำนานรักของไทย หนีไม่พ้น “ขวัญ – เรียม” ที่มีจุดจบที่คล้ายคลึงกันตลอดจนความรักของ “นางนาก” ผีสาวผู้ที่รอการกลับมาของสามี จนกลายเป็นตำนานของความรักแท้ที่ยิ่งใหญ่ที่เล่าขานกันมารุ่นต่อรุ่น  ส่วนที่บางแสนของเรานี้ ต้องยกให้ตำนานความรักที่ยิ่งใหญ่ของศาลเจ้าแม่สามมุก ที่ตั้งอยู่เชิงเขาสามมุก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนี้

bangsaen-history

“เขาสามมุก” เป็นเนินเขาเตี้ยๆ อยู่กึ่งกลางระหว่างบ้านอ่างศิลาและหาดบางแสน ขับรถไปตามถนนเลียบริมหาดจากอ่างศิลาเป็นทางลาดขึ้นไปนั่นก็คือบริเวณที่ เรียกกันว่าเขาสามมุก และเขาสามมุกเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงจำนวนมาก ส่วนศาลเจ้าแม่สามมุกตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา และ ที่มุมหนึ่งของศาลฯ มีผู้เขียนถึงตำนานความรักของท่านไว้ดังนี้

‘เมื่อปลายรัชสมัยกรุงศรีอยุธยาบริเวณบางแสนและ เขาสามมุข ยังไม่มีบ้านเรือนและผู้คนหนาแน่นเหมือนปัจจุบันนี้ ชื่อบางแสนและเขาสามมุขก็ยังไม่ปรากฏ จะมีก็แต่ตำบลอ่างหิน ในปัจจุบันก็คือตำบลอ่างศิลาอันเป็นชุมชนของชาวประมงริมทะเล’

‘ณ ตำบลอ่างหินนี่เอง (อ่างศิลา) มีเจ้าของชื่อโป๊ะ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนามว่า “กำนันบ่าย” มีลูกชายชื่อว่า “แสน” ห่างจากตำบลอ่างหินออกไปพอประมาณมียายหลานอาศัยกันอยู่คู่หนึ่ง ยายมีชื่อเสียงเรียงนามใดไม่ได้ปรากฏไว้ ส่วนหลานสาวนั้นมีชื่อว่า “สามมุข” อาศัยอยู่ในเมืองปลาสร้อย (จังหวัดชลบุรีในปัจจุบัน) เมื่อบิดามารดาเสียชีวิตลง ก็ได้มาอาศัยอยู่กับยายจนกระทั่งโต “สามมุข” มักจะชอบมานั่งเล่นดูหนุ่มสาวรวมทั้งเด็กที่มาเล่นว่าวในหน้าลมว่าวอยู่ริม เชิงเขาเป็นประจำ และมีเพื่อนที่คอยหยอกล้อเล่นเป็นประจำก็คือลิงป่าที่ลงมาจากเขา’

‘อยู่มาวันหนึ่งขณะที่ “สามมุข” กำลังนั่งเล่นอยู่ ก็ได้มีว่าวตัวหนึ่งขาดลอยลงมาตกอยู่ที่หน้าของสามมุข เธอจึงเก็บว่าวตัวนั้นไว้และมีเด็กหนุ่มชื่อแสนวิ่งตามว่าวที่ขาดลอยมาจึง ได้พบกับสามมุข เขาทั้งสองได้รู้จักกันและแสนก็ได้มอบว่าวตัวนั้นไว้เป็นที่ระลึก หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้พบปะกันเรื่อยมาจนเกิดเป็นความรัก และได้สาบานต่อหน้าขุนเขาแห่งนี้ว่า’ “ทั้งสองจะครองรักกันชั่วนิรันดร หากใครผิดคำสาบานนี้จะกระโดดหน้าผาแห่งนี้ตายตามกัน” และแสนได้มอบแหวนวงหนึ่งให้แก่สามมุขไว้เพื่อเป็นพยาน’

น้ำสังข์ลดลงมาพร้อมกับแหวนวง หนึ่งตกลงมาด้วย

‘เมื่อกำนันบ่ายซึ่ง เป็นพ่อของแสนได้ทราบเรื่องเข้าก็เกิดความไม่พอใจ แสนได้พยายามขอร้องผู้เป็นพ่อให้ไปสู่ขอสามมุข แต่กำนันบ่ายก็กีดกันและกักบริเวณแสนไว้ จึงทำให้ทั้งสองไม่ได้พบหน้ากัน หลังจากนั้นกำนันบ่ายก็ได้ไปสู่ขอลูกสาวคนทำโป๊ะให้กับแสนและกำหนดพิธีการ แต่งงานขึ้น ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วอ่างหิน (อ่างศิลา) จนสามมุขเองก็ได้รับรู้ถึงข่าวนี้ด้วย ในวันแต่งงานของแสนได้มีการจัดงานกันอย่างใหญ่โตสมเกียรติกับที่เป็นงานของ กำนันบ่าย’ ‘ตลอดระยะเวลาที่แขกได้ทยอยเข้ามารดน้ำสังข์อวยพรให้คู่ บ่าวสาวทั้งสอง แสนได้แต่ก้มหน้านิ่งเสียใจอยู่กับตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้ จนกระทั่งแสนรู้สึกว่ามีน้ำสังข์ลดลงมาพร้อมกับแหวนวงหนึ่งตกลงมาด้วย แสนจำได้ดีว่าแหวนวงนี้เขาเป็นคนมอบให้สามมุขแต่พอเงยหน้าขึ้นสามมุขก็ได้ วิ่งจากออกไปแล้ว แสนได้หวนคิดถึงคำสาบานที่ได้ให้กับสามมุขไว้ จึงรีบวิ่งไปที่เชิงเขาแต่ก็สายไปเสียแล้ว สามมุขได้ขึ้นไปที่หน้าผานั้นแล้วทิ้งร่างที่ไร้หัวใจลงดิ่งสู่ก้นผาสิ้น ชีพอยู่ริมทะเล แสนผู้ที่ให้คำสาบานไว้กับสามมุขเขาจึงกระโดดลงหน้าผาตามสามมุขหญิงสาวสุด ที่รักไป’

รูปปั่น อนุสรณ์ ในถ่ำเขาสามมุข

เขาสามมุข”“หาดบางแสน” เป็นอนุสรณ์รักแด่คนทั้งสองจนถึงปัจจุบัน ‘จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาว บ้านที่ทราบข่าวพากันเศร้าสลดใจเป็นอย่าง มาก จึงพากันสาปแช่งกำนันบ่าย ต่อมากำนันบ่ายได้นำถ้วยชามสิ่งของต่างๆ มาไว้ในถ้ำตรงหน้าผาแห่งนั้นและตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่า “เขาสามมุข” และชายหาดที่ติดกันว่า “หาดบางแสน” เพื่อเป็นอนุสรณ์รักแด่คนทั้งสองจนถึงปัจจุบัน’ ต่อมาชาวบ้านในแถบนั้นเล่าว่า “เมื่อตกดึกได้พบ เห็นร่างของหญิงสาวมายืนอยู่ตรงหน้าผานั้นเป็นประจำทุกคืน” ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างศาลนี้ขึ้น เพื่อเป็นที่สิงสถิตและเป็นที่เคารพสักการะแก่ชาวบ้านและชาวประมงเมื่อเวลา ที่จะออกเรือไปหาปลามักจะมีการมาจุดประทัดบนบานขอให้ได้ปลากลับมาเต็มลำเรือ อย่าต้องเผชิญกับลมพายุบางครั้งเจอลมพายุกลางทะเลก็จุดธูปบนเจ้าแม่สามมุข ให้รอดปลอดภัยจากอันตรายก็สัมฤทธิ์ผลเรื่อยมา จากนั้นเมื่อเรื่องราวความรัก อันยิ่งใหญ่ของเจ้าแม่สาม มุขนั้นแพร่กระจายออกไป ก็มักมีคู่รักชายหญิง มาอธิษฐานขอให้ความรักของตนสมหวัง โดยเขียนชื่อตนกับคนรักไว้บน “ว่าว” แล้วแขวนไว้บริเวณศาลโดยเชื่อกันว่าเจ้าแม่สามมุกจะดลบันดาลให้ทุกคู่รักสม หวัง และไม่พลัดพรากจากกันเหมือนดังในตำนาน

Comments