สำหรับนักขายมือใหม่ ที่ยังไม่มีสินค้า หรือยังไม่รู้ว่าจะขายสินค้าอะไรดีใน Facebook และ Internet วันนี้ผมมีบทความดีๆ จากคุณ Theerapong Panya มาแนะแนวคิดในการเลือกสินค้าน่าขายให้เป็นหลักพิจารณาก่อน หากเลือกสินค้าถูก และเครื่องมือช่วยทาง‎การตลาด‬ดีๆ แล้วล่ะก็ รายได้จะไปไหน

What-sale-01

แต่ก่อนอื่น ก่อนจะไปที่เรื่องสินค้า เรามาเลือกและสำรวจเส้นทางการขายให้ตัวเองก่อนดีกว่าไหมว่า วันนี้เราจะขายแบบ ได้เงินน้อยต่อชิ้นแต่ขายได้เรื่อยๆ หรือ ได้เงินเยอะมากแต่อาจขายได้นานๆ ที

ทั้ง 2 เส้นทางนี้มีวิธีคิดที่ต่างกันครับ บางคนอาจไม่อยากเหนื่อยจุกจิก ชอบแบบตบทีเดียวดังโป๊ะไปเลย แต่บางคนว่างจัด ชอบตบแป่ะๆๆๆๆๆๆ ทั้งวัน ถึงไม่แรงแต่ก็ฟินดี…   คิดว่าตัวเองชอบแบบไหน ตัดสินใจเลือกได้เลยครับ ไม่ห้าม และไม่มีคำว่าผิด มันอยู่ที่วิธีคิดของคุณครับ

“ถามว่าจำเป็นต้องเลือกไหม ส่วนตัวผมคิดว่ามีความจำเป็นทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ทำงานประจำอยู่ นั่นเพราะความพร้อมและความถนัดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจคร่ำหวอดในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ขายของใหญ่มาโดยตลอด ถ้าวันนึงจะทำอาชีพเสริมด้วยการขายครีมแต้มสิวที่กำไรเพียงหกสิบเจ็ดสิบบาท ต่อหลอด…ผมมองว่ามันไม่สอดคล้องกับจริตและพฤติกรรม เพราะคุณอาจต้องตอบคำถามยุบยิบๆๆ ทั้งวันเพื่อกำไรเพียงไม่กี่บาท แล้วถ้ามันจุกจิกมากจนส่งผลกระทบต่องานหลักล่ะ? ลองพิจารณาดูสิครับ…ว่าคุ้มไหม?

ถ้าต้องเอาเวลาว่างมาทำงานเสริม ก็ควรเป็นสิ่งที่มันสอดคล้องและมีมูลค่าเทียบเคียงงานหลักครับ จำไว้นะครับว่ายิ่งงานหลักของคุณมีมูลค่าที่สูง เวลาและการทุ่มเทของคุณก็ยิ่งมีราคาที่สูงตามด้วยเช่นกัน”

เอาล่ะ ให้เวลาไปคิดนะครับว่าจะเลือกขายแบบเล็กๆ แต่ถี่ หรือ นานๆ ทีแต่คุ้ม……กลับมาที่แนวคิดในการเลือกสินค้าน่าขาย ผมแยกไว้ให้เป็น 6 แนวคิด ซึ่งจะมีทั้ง สินค้าที่จับต้องได้ (Tangible Goods) และ สินค้าที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Goods) ใครถนัดหรือสะดวกอย่างไหน ลองอ่านและตัดสินใจเลือกดูก่อนครับ

1. สินค้าในตลาด Need

ขอให้พิจารณาคุณสมบัติ 2 ข้อดังนี้ครับ

  • สินค้าที่ใช้แล้วหมดไป ต้องซื้อซ้ำๆ เช่น น้ำหอม, ครีมดูแลผิว, อาหารเสริม, เสื้อผ้าชุดแต่งกาย ฯลฯ
  • สินค้าสำหรับแก้ไขปัญหา (อาจซื้อซ้ำหรือซื้อครั้งเดียว) เช่น ยาปลูกผม, สเปร์ยแก้กลิ่นเท้า, สมุนไพรเสริมสมรรถภาพทางเพศ, ผลิตภัณฑ์ควบคุมและลดน้ำหนัก, ครีมแต้มสิว, กระเป๋าน้ำร้อน, น้ำมันสกัดธรรมชาติแก้ปัญหาด้านผิวหนัง ฯลฯ

อาหารบำรุงสมรรถภาพบุรุษ
ทั้ง นี้สินค้าจะมีข้อใดข้อนึงก็ได้ หรือมีทั้ง 2 ข้อรวมกันยิ่งดีครับ ยิ่งน่าขาย อย่างผม ขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก เป็นสินค้าที่แก้ไขปัญหาแถมทานแล้วหมดไป หมดแล้วก็ต้องทานใหม่ ทำให้ผมมีลูกค้าเก่าที่ซื้อซ้ำอยู่บ่อยๆ คุ้มการลงแรงขายมากครับ

2. สินค้าในตลาด Want

  • Want หมายถึงความต้องการที่มากกว่าความจำเป็น เอาความชอบเข้าตัดสิน ส่วนใหญ่สินค้าตลาดนี้จะกำไรดีครับ เพราะราคาไม่ได้ถูกกำหนดจากความเหมาะสมด้านต้นทุน แต่ถูกกำหนดด้วยความ Want ของผู้ซื้อ แม้จะขายได้ไม่บ่อยเท่าข้อ 1 แต่ถ้าขายได้ ก็หวานลิ้นดีครับ

ตัวอย่าง สินค้าตลาด Want เช่น เครื่องประดับแฟชั่นจากหินต่างๆ บางตลาดขายตามความเชื่อส่วนตัว เช่น หินทิเบต อัญมณีประจำวันเกิด ฯลฯ , เคสไอโฟนแบบพิเศษ, กระเป๋าหนังแท้แฮนเม้ด, ชุดนอนเซ็กซี่, สินค้าประดับสัตว์เลี้ยง, ของสะสมแบบ Full Set ฯลฯ

3. สินค้าตามความเชื่อ

  • สินค้าข้อนี้เกือบจะทับกรอบกับสินค้าตลาด Want ครับ เพียงแต่เจาะจงกลุ่มลูกค้าให้เล็กลงไปอีกและมีแรงขับในการซื้อที่สูงกว่า ดังนั้น สัดส่วนกำไรจึงสูงจนน่าตกใจ

ตัวอย่างสินค้าตามความเชื่อ เช่น เครื่องราง, พระเครื่อง, ของขวัญวันเกิดตามราศี, เสื้อผ้าคู่รัก, สินค้าพิเศษตามเทศกาล (วาเลนไทน์, ปีใหม่, ของฝากญาติผู้ใหญ่), เครื่องประดับหินทิเบต, ชานอก-นำเข้า, เครื่องประดับ-ตกแต่งบ้านตามความเชื่อทางศาสนา ฯลฯ

4. ขายบริการเฉพาะอย่าง

  • วันนี้ถ้าคุณมีทักษะพิเศษจากการทำงานประจำหรืองานอดิเรก เช่น แปลภาษา, ตัดต่อวีดิโอ, เขียนบทความ, ทำบัญชี ฯลฯ ที่เป็นที่ต้องการของคนอื่น

วันนี้ เท่ากับคุณมีบริการเป็นของตัวเอง คุณก็สามารถใช้โมเดลการตลาดของผมหาลูกค้าได้สบายครับ (ลักษณะงาน Freelance) ตัวอย่าง สมัยผมเข้าวงการนี้แรกๆ ผมหารายได้พิเศษด้วยการเขียนบทความครับ บทความสั้นๆ คิดบทความละ 15 บาท ก็ค่อยๆ ทำในเวลาว่าง เขียนเรื่องไหนก็ได้ความรู้เรื่องนั้น ไปๆ มาๆ ก็เปิดเว็บบล็อกเอง เพื่อสร้างรายได้ต่อจากความรู้ที่เข้ามาเรื่อยๆ…พอจะเห็นแนวทางแล้วนะครับ หรือ…

5. ขาย Information Product

  • ข้อนี้เป็นผลผลิตหรือผลสืบเนื่องจากข้อ 4 ครับ คือ เมื่อคุณมีทักษะพิเศษคุณก็เพียงถ่ายทอดมันเป็นความรู้เฉพาะทาง ในรูปแบบ e-Book, Website, Video หรือ จัดพิมพ์ลงหนังสือเอง เพื่อจำหน่ายให้คนที่สนใจจะศึกษา แค่นี้คุณก็มีสินค้าเป็นของตัวเองแล้ว

ตัวอย่างเช่น e-Book คอร์สลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัมใน 7 วัน, วีดิโอสอนรีทัชภาพด้วย PhotoShop แบบ Step by Step เป็นต้น
6. สินค้าเทคโนโลยี

  • ตลาดนี้มักมีความน่าตื่นตาตื่นใจเสมอครับ ส่วนใหญ่จะเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา หรือทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น แผ่นประคบร้อนไฟฟ้า (ใช้แทนถุงน้ำร้อน), กล้องวีดิโอติดรถยนต์, กล้องวงจรปิดแบบไร้สาย (ติดตั้งใช้งานผ่าน wi-fi), แบตเตอรี่มือถือสำรอง ฯลฯ สินค้าหมวดนี้มักมีต้นทุนสูง และมีปัญหาสินค้าเสียง่าย ยุ่งยากในการดูแลหลังการขาย…บางอย่างแม้ขายดีแต่อาจไม่คุ้มขายก็ได้ครับ ต้องพิจารณาดีๆ


7. สัตว์เลี้ยง พวกของเล่น หรือ แนวตลกๆ

  • ขายได้ดีในโลกออนไลน์ คือ สินค้าของเล่น / เครื่องแต่งกายสัตว์เลี้ยง เช่น ชุดสุนัขแฟนซี หรือ คอนโดแมว

7 แนวคิดดีๆ สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ “หากเลือกสินค้าถูก และเครื่องมือช่วยทาง ‪#‎การตลาด‬ ดีๆ แล้วล่ะก็ รายได้จะไปไหน” เพื่อนๆ อ่านแล้วมีไฟกันขึ้นมาบ้างหรือป่าวครับ อันนี้เป็นแนวคิด และเทคนิคง่ายๆ หากชอบใจ กด Like กดแชร์ กันด้วยเด้อ

ขอบคุณเครดิตบทความดีๆ จาก fanfacemarket.com สอนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์เพื่อธุรกิจขนาดเล็ก

Comments